การได้รับเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเมื่อออกจากกองทุน
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นการออมการลงทุนระยะยาวเพื่อให้มีเงินเพียงพอไว้ใช้จ่ายยามเกษียณอายุ ดังนั้น สมาชิกกองทุนจึงควรคงความเป็นสมาชิกจนกระทั่งเกษียณอายุ เพราะนอกจากจะได้รับเงินสะสมที่สมาชิกนำส่งเข้ากองทุนและเงินสมทบจากนายจ้างพร้อมผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อบังคับกองทุนแล้ว สมาชิกยังจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีกด้วย แต่หากสมาชิกมีความจำเป็นต้องลาออกจากการเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อนำเงินไปใช้โดยไม่ได้ออกจากงาน ควรคำนึงถึงปัจจัยหลัก ๆ 3 เรื่อง ได้แก่ จะได้เงินเท่าไร ต้องเสียภาษีหรือไม่ และจะกลับมาเป็นสมาชิกได้อีกหรือไม่จะได้เงินเท่าไร
ก่อนตัดสินใจลาออกจากกองทุน สมาชิกควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าตนเองมีสิทธิได้รับเงินกองทุนครบทั้ง 4 ส่วนหรือไม่ ได้แก่ เงินสะสม ผลประโยชน์ของเงินสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินสมทบ และในจำนวนเท่าไร โดยพิจารณาว่า “อายุงาน” หรือ “อายุที่เป็นสมาชิกกองทุน” เข้าเงื่อนไขการนำเงินออกจากกองทุนตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับกองทุนอย่างไร ซึ่งนายจ้างส่วนใหญ่มักกำหนดเงื่อนไขการให้เงินสมทบและผลประโยชน์ของเงินสมทบเป็นแบบขั้นบันไดตามอายุงานหรืออายุการเป็นสมาชิกกองทุน
ต้องเสียภาษีหรือไม่
หากสมาชิกลาออกจากกองทุนโดยไม่ได้ลาออกจากงาน สมาชิกจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับเงินส่วนที่เป็นเงินสะสมเท่านั้น โดยสมาชิกจะต้องนำเงินกองทุนอีก 3 ส่วนไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี (คลิก เพื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี)
จะกลับมาเป็นสมาชิกได้อีกหรือไม่
ก่อนตัดสินใจลาออกจากกองทุน สมาชิกควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าตนเองสามารถกลับเข้ามาเป็นสมาชิกกองทุนได้อีกหรือไม่ เพื่อไม่ให้เสียโอกาสและประโยชน์ในการเก็บออมเงินอย่างต่อเนื่องในระยะยาวสำหรับรองรับชีวิตหลังเกษียณ ทั้งนี้ สมาชิกสามารถดูเงื่อนไขการกลับเข้ามาเป็นสมาชิกกองทุนได้จากข้อบังคับกองทุนซึ่งกำหนดแตกต่างกันไป โดยบางแห่งอาจกำหนดให้สมาชิกที่ลาออกจากกองทุนโดยไม่ลาออกจากงานสามารถกลับเข้ามาเป็นสมาชิกได้ทันที บางแห่งอาจกำหนดระยะเวลา และบางแห่งอาจไม่เปิดโอกาสให้กลับเข้ามาเป็นสมาชิกได้อีก (คลิก เพื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับประโยชน์ของการออมเงินเร็วและต่อเนื่อง)
